“ทำอย่างไรถึงจะได้เป็นทหารเหมือนพี่คะ”
เป็นคำถามยอดนิยมตลอดช่วงเวลา ๒ ปีที่ดิฉันได้เดินทางไปพบกับน้องๆ
นศท. หญิงในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะตัวแทนของกองทัพบก ดิฉันและเพื่อนๆ
ก็อธิบายให้น้องฟังว่า การเป็นทหารสำหรับผู้หญิงมีเส้นทางหลักอยู่สองเส้นทาง
นั่นคือ การสอบเข้ารับการบรรจุ
ซึ่งทางสายนี้น้องจะต้องเปิดรับข่าวสารจากกรมยุทธศึกษาทหารบกให้ดีๆ
เพราะจะมีการเปิดสอบคัดเลือกแทบทุกปี
ทั้งนี้เนื่องจากบางคุณวุฒิกองทัพไม่สามารถผลิตเองได้
จึงต้องเปิดรับจากบุคคลพลเรือน (นั่นแน่...มีหลายคนแอบอมยิ้ม) ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ
การสอบเข้าเรียนวิทยาลัยพยาบาล ซึ่งดิฉันว่าเข้าทางน้องๆ เลยล่ะ เพราะการเรียน รด.
ของน้องผู้หญิงจะแสดงอานิสงส์ก็งานนี้เอง การเรียนวิชาทหารหรือ รด. สำหรับน้องผู้หญิงมีประเด็นเรื่องสิทธิที่น้องๆ
ควรทราบก็คือ การเรียน รด. สามารถเป็นคะแนนช่วยในการสอบรอบที่ ๒ (สัมภาษณ์,
บุคลิก, ท่วงทีวาจา และความเหมาะสมในการเป็นทหาร)
เข้าเรียนวิทยาลัยพยาบาลได้ทุกเหล่าทัพ (กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ) หลังจากที่สอบผ่านข้อเขียนในรอบแรกแล้ว
โดยพิจารณาน้ำหนักคะแนนเพิ่มตามชั้นปีที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร
ถามว่าทำไมไม่ช่วยในรอบแรก
นั่นก็เพราะวิชาพยาบาลของวิทยาลัยพยาบาลเหล่าทัพก็เหมือนกับวิชาพยาบาลของสถานศึกษาอื่นๆ
ที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้
พร้อมที่จะเข้ารับการศึกษาจึงต้องวัดจากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในอันดับแรก
ส่วนคะแนนพิเศษที่ให้เพราะเคยเรียน รด. มาแล้ว
จะเป็นตัวการันตีว่านักเรียนคนนี้มีความเหมาะสมที่จะเป็นทหารอันเป็นลักษณะเฉพาะของวิทยาลัยพยาบาลเหล่าทัพที่เพิ่มเติมจากสถานศึกษาอื่น
และเมื่อสำเร็จการศึกษาน้องๆ ที่เข้าเรียนในวิทยาลัยพยาบาลเหล่าทัพ
จะได้รับการแต่งตั้งยศและบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารหญิงตามความต้องการของแต่ละเหล่าทัพ
อย่างไรก็ตามวิทยาลัยพยาบาลทั้งสามเหล่าทัพ
มีแนวคิดที่จะพิจารณาให้นำคะแนนจากการเรียน รด. มาเพิ่มให้ในการสอบรอบแรก
หวังว่าแนวความคิดนี้น่าจะประสบความสำเร็จในอนาคตซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆ
ที่ได้รับการฝึกวิชาทหาร (เรียน รด.) แต่ในระหว่างนี้
ดิฉันมีเส้นทางใหม่มานำเสนอค่ะ ถ้าสนใจจะเป็นทหารหญิงอ่านต่อไปเลยค่ะ
เส้นทางนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่าการฝึกผู้หญิงก็ควรจะให้ผู้หญิงเป็นครูฝึกและเป็นครูปกครอง
เพราะจะช่วยแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างชายหญิงได้ (คิดว่าคุณผู้อ่านคงจะเข้าใจนะคะ) ดังนั้น
กองทัพบก จึงอนุมัติให้ หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง ทำการสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนหญิง
เข้ารับราชการอัตราต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตร ในตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนรักษาดินแดน
ศูนย์การกำลังสำรอง (อัตราสิบเอก) จำนวน ๑๐ อัตรา โดยคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดก็คือ
“เป็นผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๓, ๔
หรือ ๕ โดยผ่านการสอบ/คัดเลือกและพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ครูฝึก นศท. หญิงได้ต่อไป”
จากโอกาสที่กองทัพบกหยิบยื่นให้นี้ เมื่อวันที่ ๑๐ – ๑๑
ส.ค.๔๙ นสร. จึงได้ต้อนรับอดีต นศท. หญิง และ นศท.หญิงปัจจุบัน (ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่
๔และ๕ ) จำนวน ๑๓๔ คน ที่สมัครใจเข้ารับการสอบและคัดเลือกเป็นครูฝึกหญิง ซึ่งน้องๆ
ทุกคนได้รับการทดสอบทั้งความรู้ภาคทฤษฎีและความพร้อมของร่างกายโดยทั่วหน้ากันและเป็นผลให้มีน้องๆ
จำนวน ๑๐ คน ผ่านการสอบ/คัดเลือกบรรจุเป็นครูผู้ช่วย ในส่วนนี้พี่ๆ
ตลอดจนข้าราชการของ นสร. ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ สำหรับน้องๆ
ที่พลาดหวังหรือยังไม่ทันได้เตรียมตัว ไม่ต้องเสียใจ ไม่แน่
ปีหน้าฟ้าใหม่อาจจะมีข่าวดีอีก เตรียมตัวให้พร้อมและเงี่ยหูฟังให้ดีๆ แล้วกัน...นะน้องนะ
เส้นทางสายใหม่สำหรับนักศึกษาวิชาทหารหญิงที่ต้องการเข้ารับราชการสายนี้
เป็นเส้นทางนำร่องที่จะเบิกทางให้ผู้หญิงที่เรียน รด. มีขวัญและกำลังใจในการฝึกวิชาทหารมากขึ้น
และเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารหญิงประจำการเหมือนพวกพี่ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อกองทัพบกเปิดรับทหารหญิงที่ผ่านการเรียน รด. มาแล้วเช่นนี้
ประโยชน์ข้อหนึ่งที่จะได้จากน้องๆ เหล่านี้ ก็คือ
กองทัพบกจะสง่างามเพิ่มขึ้นอีกเพราะเรามีกำลังพลที่มี “ใจ”
รักในอาชีพทหารเช่นน้องเหล่านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น